Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/35971
Title: Comparison between the subjective and objective assessments of chewing ability in mandibular implant-retained overdenture patients
Other Titles: การเปรียบเทียบระหว่างวิธีการตรวจพินิจแบบจิตวิสัยกับวิธีการตรวจพินิจ แบบวัตถุวิสัยต่อความสามารถในการบดเคี้ยวของผู้ป่วยที่ใส่ฟันเทียมทั้งปากล่างคร่อมรากฟันเทียม
Authors: Neerush Kunon
Advisors: Orapin Kaewplung
Other author: Chulalongkorn University, Faculty of Dentistry
Advisor's Email: [email protected]
Subjects: Dentures
Dental implants
Mastication
ฟันปลอม
ทันตกรรมรากเทียม
การบดเคี้ยว
Issue Date: 2012
Publisher: Chulalongkorn University
Abstract: This study aimed to investigate the relationship between the subjective and objective assessments of chewing ability in mandibular implant-retained overdenture patients. Thirty-eight participants (mean ages: 69.2±8.3 years) were evaluated their chewing function 3 times: 1 month after implant placement, 1 month after the insertion of a mandibular implant-retained overdenture and 3 months after the insertion of a mandibular implant-retained overdenture. Subjective chewing ability was evaluated using a developed questionnaire consisting of 14 common food types. Objective chewing ability was assessed by a wax cube analysis method. The results showed that, at 3 months after the insertion of mandibular implant-retained overdenture, the outcome of the subjective assessment of chewing ability positively relate to the outcome of the objective assessment of chewing ability.
Other Abstract: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างวิธีการตรวจพินิจแบบจิตวิสัยกับวิธีการตรวจพินิจแบบวัตถุวิสัยต่อความสามารถในการบดเคี้ยวของผู้ป่วยที่ใส่ฟันเทียมทั้งปากล่างคร่อมรากฟันเทียม โดยผู้เข้าร่วมวิจัยจำนวน 38 ราย (อายุเฉลี่ย 69.2±8.3 ปี) จะได้รับการประเมินการทำหน้าที่การบดเคี้ยวจำนวน 3 ครั้ง ได้แก่ ภายหลังการฝังรากฟันเทียม 1 เดือน ภายหลังใส่ฟันเทียมทั้งปากล่างคร่อมรากฟันเทียม 1 เดือน และภายหลังใส่ฟันเทียมทั้งปากล่างคร่อมรากฟันเทียม 3 เดือน โดยการประเมินความสามารถในการบดเคี้ยวด้วยวิธีการตรวจพินิจแบบจิตวิสัยจะใช้แบบสอบถามที่พัฒนาขึ้น ซึ่งประกอบด้วยรายการอาหารจำนวน 14 ชนิด ส่วนการประเมินความสามารถในการบดเคี้ยวด้วยวิธีการตรวจพินิจแบบวัตถุวิสัยจะใช้วิธีการวิเคราะห์ชิ้นขี้ผึ้ง ผลศึกษาพบว่า ที่ระยะเวลา 3 เดือนภายหลังจากผู้เข้าร่วมวิจัยได้รับการใส่ฟันเทียมทั้งปากล่างคร่อมรากฟันเทียม ผลลัพธ์ที่ได้จากการประเมินความสามารถในการบดเคี้ยวด้วยวิธีการตรวจพินิจแบบจิตวิสัยมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับผลลัพธ์ที่ได้จากการประเมินความสามารถในการบดเคี้ยวด้วยวิธีการตรวจพินิจแบบวัตถุวิสัย
Description: Thesis (M.Sc.)--Chulalongkorn University, 2012
Degree Name: Master of Science
Degree Level: Master's Degree
Degree Discipline: Periodontics
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/35971
URI: http://doi.org/10.14457/CU.the.2012.809
metadata.dc.identifier.DOI: 10.14457/CU.the.2012.809
Type: Thesis
Appears in Collections:Dent - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
neerush_ku.pdf1.51 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.